ผู้ใช้รถต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะระบบเบรก ใบปัดน้ำฝน และไฟส่องสว่าง ควรมีการเปลี่ยนผ้าเบรก และเติมน้ำมันเบรกที่ระยะทางไม่เกิน 50,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 2 ปี ตรวจเช็คระดับน้ำมันเบรกทุกสปดาห์
และอย่าลืมเปิดไฟหน้าและหลังของรถในขณะขับขี่ช่วงฝนตก และควรขับให้ห่างจากคันหน้ามากกว่าปกติอีกประมาณ 10-15 เมตร โดยระดับความเร็วรถที่จะทำให้รถไม่ลื่นไถลอยู่ที่ 60 กม./ชม. ขับรถอย่างมีสติและเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า ในยามที่ถนนเปียกจะต้องใช้เวลาและระยะทางในการเบรกเพิ่มขึ้น เมื่อประสบกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การขับรถด้วยความระมัดระวังและไม่ขับตามหลังรถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถบรรทุกจะ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะล้อด้านหลังของรถขนาดใหญ่มักจะปัดละอองน้ำมาใส่รถคันข้างหลัง จนอาจทำให้เสียทัศนวิสัยในการขับขี่ได้
เมื่อรถติดหล่ม ให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 และเร่งเครื่องช้าๆ อย่าเร่งเครื่องแรงจนทำให้ล้อหมุนฟรี เพราะจะทำให้รถจมลึกลงไปกว่าเดิมอีก
นอกจากนี้ต้องหมั่นตรวจเช็กสภาพที่ปัดน้ำฝนให้ใช้งานได้ดีควรเลือกความเร็วของที่ปัดน้ำฝนให้เหมาะสมกับปริมาณฝน และในระดับที่สามารถมองเห็นจากทางข้างหน้าได้ชัดเจนที่สุด เช็คใบปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรือชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีในขณะฝนตก
Line ID : @diycarkit